Posted on

YAMAHA RMAX – ฮ.ไร้คนขับเพื่อการเกษตร

img_2

ใครจะเคยคิดฝันว่าวันนึงโลกเราจะทำการเพาะปลูกโดยใช้วิธีโปรยเมล็ดพันธ์ุ โปรยปุ๋ย โปรยยาฆ่าแมลงมาจากบนฟ้า….เฮ้อ…อย่าไปนั่งคิดย้อนเวลาเลย คิดไปให้แก่เปล่าๆ…เพราะวันนี้เค้าใช้ ฮ. แบบไร้คนขับมาทำหน้าที่โปรยปุ๋ย โปรยเมล็ดกันแล้วจริงๆ

ว่าไปแล้วก็ต้องยกเครดิตให้ญี่ปุ่นเค้าจริงๆ ช่างคิดช่างประดิษฐ์อุปกรณ์

เครื่ิิองไม้เครื่องมือที่ต้องบอกว่า “ล้ำกว่าสากลโลก” ตลอด อย่างกรณีนี้ใครล่ะจะคิดว่าวันนึงเฮลิคอปเตอร์บังคับจะกลายมาเป็นอุปกรณ์เกษตร !!!

มาดูเนื้อข่าวกันดีกว่า

6ccggadchfkgc5i8ebbg8

 

 

 

 

 

ดร.ไชยวัฒน์ กล่ำพล หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมการบินและอวกาศ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า ตามที่ภาควิชาวิศวกรรมการบินและอวกาศได้ดำเนินการด้านวิศวกรรมต่างๆ ทั้งการออกแบบ ดัดแปลง และปรับปรุงอุปกรณ์ของอากาศยานไร้คนขับ รุ่นยามาฮ่า อาร์แม็กซ์ เพื่อใช้ในงานด้านการเกษตรให้เกิดประสิทธิภาพและเหมาะสมกับการเกษตรในประเทศไทย โดยคณะเกษตรเป็นหน่วยงานสนับสนุนองค์ความรู้ด้านการเกษตร ความสัมพันธ์ของปริมาณการใช้ ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ตลอดจนเมล็ดพืชพันธุ์สำหรับพื้นที่เพาะปลูกต่างๆ ซึ่งจะนำมาประยุกต์ใช้งานกับเครื่องต่อไป
                      จากการทดสอบที่ผ่านมาจะเห็นถึงจุดเด่นของยามาฮ่า อาร์แม็กซ์ ว่า มีความสามารถในการควบคุมตำแหน่งความสูงที่ถูกต้องแม่นยำและความมีเสถียรภาพของอากาศยาน นอกจากนี้ยังมีความแม่นยำสูงในการหว่านเมล็ดพืช การให้ปุ๋ย และการพ่นยาฆ่าแมลง ซึ่งจะลดการฟุ้งกระจายทำให้เกษตรกรหรือผู้ใช้งานลดปริมาณการใช้ปุ๋ย ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ลดต้นทุนการผลิต ลดความเสี่ยงในการใช้ยาฆ่าแมลง การพ่นของเหลวในบางพื้นที่สามารถพ่นได้รวดเร็ว แต่จะมีข้อเสียในเรื่องการปฏิบัติ โดยผู้ควบคุมต้องเชี่ยวชาญและฝึกฝนมาอย่างดี และยังต้องศึกษาถึงความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ การโปรยปุ๋ยและเมล็ดยังไม่ดีเท่าที่ควร จึงต้องร่วมกันศึกษาและพัฒนาต่อไปเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเพาะปลูกและพัฒนางานด้านการเกษตรให้มีความก้าวหน้าอย่างยั่งยืนตลอดไป
ด้าน ผศ.ดร.สุตเขตต์ นาคะเสถียร คณบดีคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บอกว่า การใช้เทคโนโลยีเฮลิคอปเตอร์แบบไร้นักบินเพื่อการเกษตร ยามาฮ่า อาร์แม็กซ์ กับการเกษตรในประเทศไทย เป็นเทคโนโลยีใหม่ ที่ทางคณะเกษตรจะศึกษาวิจัยและพัฒนาร่วมกับบริษัทเอกชน ในพืชเศรษฐกิจหลักของประเทศไทย 5 ชนิด คือ ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด อ้อย และสับปะรด ที่จะไปช่วยเหลือและร่วมวางแผนและขับเคลื่อนภาคการเกษตรของประเทศต่อไป
ใครจะไปรู้ วันข้างหน้าของประเทศการเกษตรอย่างเราอาจจะมีอาชีพที่ขาดแคลน คือ อาชีพผู้เชี่ยวชาญการควบคุม ฮ. เพื่อการเกษตรก็ได้ !!!
ขอบคุณ http://www.komchadluek.net/detail/20150724/210294.html
ขอบคุณ http://blogs.yahoo.co.jp/zz2001/GALLERY/show_image_v2.html?id=http%3A%2F%2Fblogs.c.yimg.jp%2Fres%2Fblog-d0-1a%2Fzz2001%2Ffolder%2F834610%2F94%2F44780094%2Fimg_2%3F1343455697&i=1

 

 

 

Posted on

รีวิวอุปกรณ์การเกษตร-กรรไกรเสียบกิ่ง สำหรับมืออาชีพ

อุปกรณ์การเกษตร-กรรไกรต่อกิ่ง 7

สวัสดีค่ะ ตอนนี้ admin จะขอมารีวิวอุปกรณ์เกษตรที่ขายดีที่สุดของร้านเรานะคะ นั่นก็คือ กรรไกรเสียบกิ่งที่ทำจากอัลลอยด์ตัวนี้เลยค่ะ…

กรรไกรเสียบกิ่งตัวนี้เป็นใบมีดรูปตัว V นะคะ ได้หมดค่ะ..ทั้ง V รับ V รุกค่ะ…อิอิ…ใบมีดมีความแข็งแรงทนทานมากค่ะ ใช้ได้ตั้งแต่กิ่งไม้แบบบอบบางไปถึงกิ่งล่ำบึ้กเลยค่ะ  ( ไม่เกิน 2 ซม.) ไม่แคร์เลยค่ะว่ากิ่งไม้จะเปลือกแข็งเปลือกบาง กรรไกรเสียบกิ่งตัวนี้ตัดได้รูปตัว V อย่างเนี้ยบ…มาดูกันค่ะ…

เริ่มจาก….เตรียมอุปกรณ์-กิ่งพันธุ์ ,ต้นตอ และกรรไกรเสียบกิ่งค่ะ

อุปกรณ์เกษตร-กรรเสียบกิ่ง grafting1

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อย่ารอช้าค่ะ ใช้กรรไกรตัดต้นตอให้เป็นรอยตัว V รับค่ะ ตัดเลยค่ะ 1 กริ๊ก…

อุปกรณ์เกษตร-กรรเสียบกิ่ง grafting2

 

 

 

 

 

 

จากนั้นก็หันมาทางกิ่งพันธุ์ และจัดการใช้กรรไกรเสียบกิ่งตัดให้เป็นตัว V เสียบ จัดไปเลยค่ะ 1 กริ๊ก

อุปกรณ์เกษตร-กรรเสียบกิ่ง grafting3

 

 

 

 

 

 

แค่นี้ก็พร้อมที่จะนำต้นตอมารอรับกิ่งพันธุ์แล้วค่า

อุปกรณ์เกษตร-กรรเสียบกิ่ง grafting4

 

 

 

 

 

 

 

 

ดูรอยตัดกันชัดๆค่ะ สวยงาม ไม่บอบช้ำ… ผลงานประหนึ่งมืออาชีพ แค่เพียง 2 กริ๊ก…

อุปกรณ์เกษตร-กรรเสียบกิ่ง grafting5

 

 

 

 

 

 

 

เมื่อนำมาเสียบต่อกันก็สามารถต่อได้อย่างแนบสนิท เพิ่มเปอร์เซ็นการรอดของกิ่งพันธุ์ได้อย่างยอดเยี่ยม

อุปกรณ์เกษตร-กรรเสียบกิ่ง grafting6

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Posted on

รีวิวอุปกรณ์การเกษตร-กรรไกรตอนกิ่ง-ควั่นกิ่ง

อุปกรณ์การเกษตร-กรรไกรตอนกิ่ง15

ท่านทั้งหลายน่าจะคุ้ยเคยตอนกิ่งไม้กันอยู่แล้ว ตัว admin เองก็เคยเรียนตอนกิ่งไม้ตั้งแต่อยู่ประถม จำได้ว่าคุณครูให้ตอนกิ่งต้นดอกพุดที่ปลูกเป็นแนวรั้วด้านหลังอาคารเรียน ตอนที่ทำก็ยังงงๆว่ามันจะมีรากออกมายังไง แต่มาถึงบางอ้อเอาตอนกลับมาที่บ้าน แล้วมาถามคำถามนี้กับคุณพ่อ และคุณพ่อก็พาไปดูกิ่งตอนต้นมะนาวหลังบ้านที่กำลังออกรากยาวๆมากมาย ความรู้สึกตอนนั้นมันช่างเป็นเรื่องแปลกประหลาดมาก ที่เราปลูกต้นไม้ได้โดยไม่ต้องเริ่มจากเมล็ด….

โอ้…ตกลงว่าวันนี้จะมาเขียนไดอารี่ หรือจะมารีวิวสินค้ากันแน่เนี่ย..อิอิ…งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า อุปกรณ์เกษตรที่จะนำเสนอในวันนี้ ก็คืออ……..กรรไกรตอนกิ่ง….นั่นเองงงงงงง… ( sound ประกอบเหมือนทีวีแชมเปี้ยน)

พระเอกวันนี้ คือกรรไกรตอนกิ่งขนาดกลาง ขนาดเหมาะมือ อันนี้ค่ะ

อุปกรณ์เกษตร-กรรไกรตอนกิ่ง1

 

 

 

 

 

 

 

 

ส่วนนางเอกก็ใช่คนอื่นไกลที่ไหน…หนูมะนาวน้อย….นั่นเอง (อีกแล้ว)

รีวิวนี้จะแสดงให้เห็นว่ากรรไกรตอนกิ่งขนาดกลางรุ่นนี้ สามารถใช้ได้กับกิ่งขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ แต่วันนี้เราจะเลือกกิ่งมะนาวไซส์เล็กมาให้ดูกัน

เรื่มจากการกะขนาดกิ่งตอน ถ้ามีขนาดเล็กก็ใช้ความคมตรงปลายกรรไกร อย่างนี้จ้า

อุปกรณ์เกษตร-กรรไกรตอนกิ่ง9

 

 

 

 

 

 

 

จากนั้นก็หมุนกรรไกรกรีดรอบกิ่งพันธุ์

อุปกรณ์เกษตร-กรรไกรตอนกิ่ง8

 

 

 

 

 

 

 

ทำซ้ำเพื่อสร้างรอยกรีดขอบล่าง รอยกรีดที่ได้จะไม่ชอกช้ำระกำใจเลย..อิอิ..จากนั้นใช้มีดปลายแหลมเล็กกรีดตรงกลางขอบที่กรีด

จากนั้นก็สามารถลอกเปลือกไม้ออกได้โดยง่ายดายอย่างนี้เลย

 

อุปกรณ์เกษตร-กรรไกรตอนกิ่ง12

 

 

 

 

 

 

 

 

อุปกรณ์เกษตร-กรรไกรตอนกิ่ง15

 

 

 

 

 

 

 

อ๊ะ อย่าลืมใช้สันกรรไกรขูดเบาๆเพื่อตัดท่อนำอาหารด้วยนะจ๊ะ  จากนั้นก็เป็นงานของขุยมะพร้าว , ถุงพลาสติก และเชือกรัด อย่างนี้..แต่นแต๊น…

อุปกรณ์เกษตร-กรรไกรตอนกิ่ง16

 

 

 

 

 

 

 

เป็นไงบ้างคะ กับฝีมือของพระเอกของเรา นี่ถ้าเป็นกิ่งไซส์ใหญ่กว่านี้ จะรู้เลยค่ะว่าทำได้ง่ายและสะดวกกว่าการใช้มีดกรีดเยอะ ที่สำคัญใช้กรรไกรตอนกิ่งสามารถลดความบอบช้ำของรอยกรีดได้อย่างดีเลยค่ะ

ขอปิดท้าย ด้วยรูปคู่ของพระ-นางนะคะ แล้วเจอกันรีวิวหน้าค่ะ

อุปกรณ์เกษตร-กรรไกรตอนกิ่ง17

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Posted on

แสงจาก LED ทางเลือกใหม่ของอุปกรณ์การเกษตรในอวกาศ

อุปกรณ์การเกษตร LED

เนื่องมาจากการพยายามปรับตัวสู่ยุค AEC ของ adimin ทำให้ได้ไปเจอข่าวการวิจัยอุปกรณ์การเกษตรเชิงพลังงานทางเลือกโดยการใช้แสงไฟจาก LED ในการปลูกพืชในอวกาศสำหรับนักบินอวกาศ

จากความเก่งกาจทางด้านภาษา ทำให้ admin แปลออกมาได้ประมาณนี้ว่า

ตอนนี้คณะวิจัยจากมหาวิทยาลัย Purdue นำทีมโดยคุณ Cary Mitchell อาจารย์ภาควิชาพืชสวนและนักศึกษาปริญญาโท คุณ Lucie Poulet ได้ศึกษาการเจริญเติบโตของผักกาดหอมภายใต้แสงจากหลอด LED ที่ติดตั้งบริเวณใกล้หลังคา ในอัตราส่วนแสงแดง : แสงน้ำเงิน เป็น 95 : 5 ทั้งนี้การศึกษาพบว่าใช้พลังงานน้อยกว่าการใช้แสงปริมาณเดียวกันจากแหล่งกำเนิดแสงสว่างแบบเดิม และยังใช้พลังงานแค่เพียงครึ่งเดียวเมื่อเทียบกับการใช้หลอด LED แบบเต็มรูปแบบ

คณะศึกษากล่าวว่า “”ทุกอย่างบนโลกล้วนถูกขับเคลื่อนด้วยแสงอาทิตย์และระบบการสังเคราะห์แสง คำถามคือมีวิธีไหนที่เราจะสามารถจำลองพื้นที่เพาะปลูก ภายใต้การสร้างแสงด้วยแหล่งพลังงานจำกัด  ซึ่งไฟ LED เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะเราไม่ได้ติดอยู่ในยุคของความอุดมสมบูรณ์ของพลังงานแสงแรงสูง แหล่งพลังงานขนาดใหญ่ และก็ไม่ใช่ยุคของโคมไฟที่เปราะบาง ”

หนึ่งในอุปสรรคสำคัญที่ผลักดันให้เกิดการศึกษาการใช้แสงจาก LED ในการจำลองระบบนิเวศที่เลียนแบบชีวมณฑลของโลก คือ อาหารสำหรับการเดินทางไปสำรวจอวกาศ เช่น การเดินทางไป-กลับ ระหว่างโลกและดาวอังคารจะใช้เวลาประมาณ 1,000 วัน ซึ่งต้องใช้อาหาร ,น้ำและออกซิเจนจำนวนมาก ซึ่งหากเราสามารถพัฒนาโมดูลสำหรับปลูกพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้ลูกเรือมีพื้นที่สำหรับปลูกพืชเป็นอาหารได้ในระหว่างการเดินทางที่ยาวนาน

Poulet ยังกล่าวอีกว่า “ถ้าเราสามารถออกแบบระบบที่ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เราจะสามารถปลูกผักเพื่อการบริโภคสำหรับการเดินทางในอวกาศ  ตอนนี้เราสามารถจินตนาการไปถึงการสร้างเรือนกระจกปลูกผักบนดวงจันทร์กันเลยทีเดียว”

ความท้าทายหลักในการสร้างโมดูลพืชระหว่างการเดินทางในอวกาศ คือหากใช้หลอดไฟโซเดียมซึ่งเลียนแบบแสงอาทิตย์ก็จะต้องใช้พลังงานสูงถึง 600 ถึง 1,000 วัตต์ธรรมดา และความร้อนจากแสงไฟจะเผาใบของพืชหากวางใกล้เกินไป รวมไปถึงต้องมีระบบการดูดซับความร้อนส่วนเกินที่จะเกิดขึ้น

“นอกจากนี้ คุณจะต้องมีเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์จึงจะสามารถเลี้ยงลูกเรือสี่คนเป็นประจำด้วยการปลูกพืชภายใต้แสงไฟฟ้าแบบดั้งเดิม”Poulet กล่าว

เพื่อการออกแบบระบบที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น Poulet และ Mitchell หันไปใช้หลอดไฟ LED ความเข้มสูง ซึ่งแต่ละหลอดใช้ไฟประมาณ 1 วัตต์ และมีขนาดเล็กมาก รวมถึงมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าหลอดไฟแบบดั้งเดิม ที่สำคัญหลอด LED เหล่านี้ไม่ปล่อยพลังงานความร้อนส่วนเกิน ซึ่งทำให้เราสามารถติดตั้งหลอดไฟ LED ไว้ใกล้กับพืชมากขึ้น

“แทนที่ตั้งโคมไฟแบบดั้งเดิมให้ห่างจากแปลงผักอย่างน้อย 4 ฟุตสำหรับต้นผักกาดหอม แต่ถ้าใช้หลอดไฟ LED  เราจะวางห่างจากผักได้ในระยะ 4 เซนติเมตรจากใบ” Mitchell กล่าว

ทั้งนี้ นักวิจัยยังต้องเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการปรับอัตราส่วนของสีแดงและแสงสีน้ำเงินในผักกาดหอมใบด้วยชุดคลื่นแสงที่ดีที่สุดสำหรับการสังเคราะห์แสงและการเจริญเติบโต

Mitchell ยังกล่าวอีกว่าการศึกษาการใช้ไฟ LED นี้ยังสามารถช่วยเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของเกษตรกรโดยการลดค่าใช้จ่ายในการส่องสว่าง

ขั้นตอนต่อไปในการวิจัย คือการปรับเพิ่มและลดแสงให้สอดคล้องตามระยะการเจริญเติบโตของพืช เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเจริญเติบโตและประหยัดพลังงาน

เป็นไงคะ น่าสนใจใช่มั้ยล่ะ จริงๆถ้าเราจะเพิ่มการใช้หลอด LED เป็นอุปกรณ์การเกษตรชิ้นใหม่ในลิสต์รายการ หรือลองประยุกต์ใช้ LED กับสิ่งรอบตัวที่บ้านเราบ้างก็คงไม่เสียหายอะไร ดีไม่ดี…จะประหยัดไฟ ประหยัดสตางค์ไปได้อีกเยอะ

 

ขอบคุณ http://www.sciencedaily.com/releases/2015/07/150701115101.htm

 

Posted on

เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อไม่ยาก ค่าอุปกรณ์ราคาประหยัด!!!

อุปกรณ์การเกษตรเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

สืบเนื่องมาจากกอกล้วยหน้าบ้านตกเครือเป็นครั้งแรก สร้างความตื่นเต้นให้กับ admin มาก และก็ไม่ผิดหวังเลยหลังจากที่ได้ลองชิม (กันเป็นหวีๆ) แล้ว เพราะเนื้อที่แน่น หวาน ไส้เหลืองอ่อนๆ อร่อยมากๆ อยากจะเพาะพันธ์แจกกันเลย แต่มองไปที่หน่อแล้วคงแจกได้เต็มที่ก็พี่ รปภ. ของหมู่บ้าน ( มีคนเดียว)

แว่บนั้น…พลันก็นึกขึ้นได้ถึงวิธีการขยายพันธุ์ที่เคยเห็นตอนอยู่ ม. ต้น ( ก็แค่กว่า 20 ปีก่อนเอง..อิอิ) อืม…วิธีก็ไม่ใหม่แล้ว ไหงราคาอุปกรณ์ยังเป็นหมื่นแก่ๆถึงแสนอ่อนๆอยู่เลย ทันใดนั้นก็เห็นข่าวไทยรัฐที่ลงไว้เมื่อปี 2557 ว่าเราสามารถเพาะเนื้อเยื่อพืชได้โดยลงทุนค่าอุปกรณ์แค่หลักร้อย.. น่าสนใจมาก..ไปดูกันว่าเค้าทำยังไง

คิดจะเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อบ้าง ไม่ใช่เรื่องยากเกินเอื้อม…น.ส.มนฑิณี กมลธรรม นักวิชาการ ฝ่ายเทคโนโลยีการเกษตร สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ได้คิดวิธีการแบบใหม่ ลงทุนแค่ไม่กี่ร้อยบาท เราสามารถเนรมิตห้องเพาะเนื้อเยื่อทำเล่นสนุกๆภายในบ้านได้แล้ว

“การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ สิ่งสำคัญที่สุดคือความสะอาด กับใจเย็น ไม่อย่างนั้นเลี้ยงไม่รอด ไม่กี่วันอาหารเป็นเชื้อรา เนื้อเยื่อตายหมด ถ้าใครยังไม่เคยทำ ให้ลองเอากล้วยไม้มาทำก่อน เพราะง่ายที่สุด เขี่ยเนื้อเยื่อเสร็จเลี้ยงอีกแค่ 5-6 เดือน ต้นเริ่มโตก็ขายได้ หรือเอาไปเป็นของขวัญของฝากในเทศกาลต่างๆก็ไม่เลว”

วิธีการไม่ยาก อุปกรณ์ก็หาง่าย เริ่มด้วยการทำอาหารเนื้อเยื่อ

ใช้น้ำสะอาด 1 ลิตร

วุ้นทำอาหาร 8 กรัม

ถ่านไม้บด 0.2 กรัม

มันฝรั่งบด 50 กรัม

กล้วยหอมบด 50 กรัม

ปุ๋ยสูตรที่มีไนโตรเจนสูง (N) 2 กรัม

ใส่รวมในหม้อต้ม คนให้เข้ากันกระทั่งน้ำเดือด เทอาหารเนื้อเยื่อใส่ขวด สูงประมาณ 1 ซม. หยดน้ำยาซักผ้าขาวที่มีสารโซเดียมไฮโปคลอไรด์ตามทันทีประมาณ 5 หยด/ขวด…ปิดฝาอย่างรวดเร็ว ความร้อนกับน้ำยาซักผ้าขาวจะฆ่าเชื้อได้ดี

วิธีนี้เลยไม่ต้องใช้หม้อนึ่งความดันให้สิ้นเปลือง

สูตรนี้ได้อาหารเลี้ยงเนื้อเยื่อ 40-50 ขวด เมื่ออาหารเย็นจับตัวเป็นก้อน เอาไปเลี้ยงเนื้อเยื่อได้เลย ขั้นตอนนี้โดยทั่วไปจะทำกันใน “ตู้ปลอดเชื้อ” ราคาแพงๆ แต่ มนฑิณี ใช้ “ตู้เลี้ยงปลา” ล้างให้สะอาด ภายในมีตะเกียงแอลกอฮอล์…ก่อนลงมือเอาเนื้อเยื่อมาเพาะเลี้ยง ต้องใช้เอทิลแอลกอฮอล์ 70% เช็ดฆ่าเชื้อตามฝ่ามือ ขวดอาหารเนื้อเยื่อ รวมทั้งปากคีบต้องเผาไฟฆ่าเชื้อ 2-3 ครั้ง

 

เนื้อเยื่อที่ต้องการนำเพาะขยาย ทำได้ทั้งพืชล้มลุก ไม้ดอกไม้ประดับ แล้วแต่ใครจะชอบ ตัดเอาแค่ส่วนยอดอ่อนด้วยใบมีดที่คม แผลจะได้ไม่ช้ำ นำไปจุ่มในน้ำยาซักผ้าขาว 15% ฆ่าเชื้อก่อน จากนั้นนำไปใส่ในขวดอาหารเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ…ฝา ปากขวดต้องอังกับตะเกียงไฟ 3-5 วินาทีก่อนปิดให้สนิท

นำขวดที่มีเนื้อเยื่อไปวางไว้ที่อุณหภูมิ 25–28 องศา เปิดไฟให้แสงสว่างวันละ 8 ชม. สังเกตอาหารเพาะเนื้อเยื่อหมด ย้ายต้นกล้าลงปลูกได้เลย

แต่ถ้าเป็นกล้วยไม้ ให้ย้ายต้นกล้ามาใส่กาบมะพร้าวสับ เอาไปแขวนไว้ในโรงเรือนเพาะเลี้ยง ที่แสงแดดไม่แรง 5-6 เดือน ก็สามารถเปลี่ยนเป็นเงินเข้ากระเป๋าได้สบายๆ

 

รู้อย่างนี้แล้ว ต้องลองทำกันดูนะคะ  admin ไม่พลาด (ให้สามีทำ) แน่ค่ะ อิอิ

ขอขอบคุณ http://www.thairath.co.th/content/456692